เจอเพื่อนใหม่ที่ลอนดอน
เพื่อนใหม่
พื้นที่สาธารณะของที่นี่เป็นห้องโถงใหญ่
มีโซฟา กาแฟ น้ำดื่ม เครื่องคอมพิวเตอร์ และที่ชั้นวางหนังสือที่ซึ่งมีหนังสือให้อ่านอยู่ไม่มากแต่ก็มีหนังสือท่องเที่ยวประเทศไทยเล่มนึง
ผมมาอยู่บริเวณห้องนี้แทบทุกเช้าก่อนออกไปเผชิญโลกด้วยการเขียนไดอารี่
กินกาแฟฟรี
แต่ก็ไม่ค่อยชอบบรรยากาศนักเพราะคนแน่น ที่นั่งมักจะเต็ม
และผมก็ไม่ชอบมนุษย์ (หมายถึงไม่ชอบสถานที่ซึ่งมีคนอยู่หนาแน่น) สักเท่าไหรด้วย
หากใครได้มาใช้ห้องโถงตอนเช้าก็จะได้เจอพนักงานผมทองคนนึงกำลังทำวามสะอาด
กวาดพื้น จัดเก้าอี้
ท่าทางเธอเคร่งเครียดและดูเหมือนจะบ่นในใจว่าทำไมคนชอบวางของพวกถ้วยกาแฟเกะกะไม่วางเข้าที่
แถมฝรั่งบางคนก็เคยโดนดุอีกเวลาไม่ได้เก็บอะไรเข้าที่เดิม
แม้ว่าเธอก็ไม่ได้ดูแก่เท่าไรแต่หากมาอยู่เมืองไทยคงโดนเรียกมนุษย์ป้าไปแล้ว
บางทีผมก็กลัวว่าจะโดนแจ๊คพอตเกิดไปทำอะไรพลาดแล้วเจอเธอมาท้าวสะเอวด่าอยู่เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม
วันนี้มีเหตุการณ์ที่ดีอยู่อย่างหนึ่งคือได้เพื่อนใหม่ ซึ่งก็คือแม่นางคนหนึ่งที่นอนเตียงตรงข้ามกันและมีนิสัยเหมือนกัน
คือชอบเขียนบันทึกก่อนนอน วันนี้บังเอิญเรามานั่งบนโซฟาตรงข้ามกันก็เลยยิ้มให้
ทักทาย รู้สึกแปลกใจที่เราไม่ได้คุยกันก่อนนี้ทั้งที่เจอกันบ่อย
เธอเป็นสาวสวยญี่ปุ่นอายุประมาณต้นสามสิบใส่แว่นกลมหน้าตาดีมีชื่อว่าซากิ
มาจากโอซากาและเที่ยวอังกฤษเป็นครั้งแรกเช่นเดียวกับเรา
ก่อนหน้านี้ไปมาแล้วหลายแห่งในยุโรปและเคยมาเมืองไทยที่กรุงเทพฯ อยุธยา
เชียงใหม่ด้วย
พอเห็นสมุดไดอารี่เราก็รู้ว่ามาจากเมืองไทยเพราะหน้าปกเป็นรูปในหลวงภูมิพลกำลังสะพายกล้อง
เลยรู้ว่าเป็นคนไทยมาสักพักแล้ว
หลังจากนี้เราก็มาแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องที่เที่ยวอังกฤษก็ได้ความรู้เพิ่มเติมดี
และก็ถามไปถึงญี่ปุ่นอีกด้วย เพราะคิดว่าคงจะได้ไปสักวันหนึ่ง
แต่ที่แน่นอนก็คือถามถึงเรื่องที่พักที่นี่ว่าเป็นไง ซากิก็คิดแบบเดียวกับเราว่า
ราคาถูกแต่ก็ไม่ดี ห้องพักรวมหนาแน่นเกินไปและก็ห้องน้ำ ห้องครัวอีก
โชคยังดีที่เธอไม่ได้ใช้ครัวมากนัก บอกกับเราว่าคิดผิดอยู่เหมือนกันที่มาจองที่นี่
คุยกันสักพักก็แยกย้ายกัน
เธอไปดูพิพิธภัณฑ์บริติช (British Museum) ส่วนผมไปชมงานศิลปะที่หอศิลป์เทต
(Tate Gallery) คืนนี้ก็คงกลับมาเจอกันอีก
คงได้เม้าท์มอยกันมากกว่านี้
Comments
Post a Comment